อุมาวสี โดย ตรี อภิรุม (แนะนำให้อ่านคู่กับ หิมพาลัย) ex1
กอย่างมาแต่เหตุ...เรื่องนี้คงไม่เกิด หากพิชญ์และอุมาวสีจะไม่ออกจากหิมพาลัยนคร เมืองลับแลแห่งนั้น
ในเล่มต้น คุณ ‘ตรี อภิรุม’ เขียน ‘หิมพาลัย’ ไว้ให้อ่านกันจนเพลิน
เท้าความสั้นๆ ‘พิชญ์’ พลัดหลงเข้าไปในแดนลี้ลับต่างมิติโดยบังเอิญ พื้นที่นี้แฝงอยู่กับอดีตนับพันปี เพียงชั่วระยะเวลาหนึ่ง เขาได้รับการกล่อมเกลาจิตใจและความประพฤติในระดับดี จากหญิงที่รักชื่อ ‘อุมาวสี’ จนถึงเวลานี้ สาวสวยน้ำใจงามเสียสละตัวเองออกจากเมืองลับแล เพื่อให้ชายคนรักได้กลับบ้าน
ต่อจากนี้ไป หล่อนกลายเป็นสะใภ้พลัดถิ่น น่าสงสัยว่าจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนเมืองได้หรือไม่
รู้แต่หล่อนก็คือหล่อน...ถือสัจไม่กล่าวเท็จ
รู้แต่ว่าในสายตาหญิงสาวผู้นี้ จิตใจมนุษย์นอกเขตหิมพาลัยนคร ส่วนใหญ่เสื่อมศีลธรรมเบื้องต้น ยากขัดเกลา ทั้งซ่อนเงื่อน ประสงค์ร้าย ทั้งลับ-ลวง-พราง
ดีที่อุมาวสีพบเพียงโลกใหม่ ยังไม่ได้ก้าวสู่โลกโซเซียลมีเดียเต็มรูปแบบดังปัจจุบัน...ปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่โลกห้ำหั่นเอาเป็นเอาตายผ่านสื่อกันมิเว้นวาง โลกของกระแสที่เรื่องเล็กๆ ถูกปั่นให้ผิดเพี้ยนเปลี่ยนเป็นเรื่องใหม่ที่ใหญ่ขึ้น หรือคนธรรมดาถูกทำให้เลิศเลอเกินมนุษย์มนา และหากพลาดท่าก็ถูกเหยียบซ้ำก่นด่า แบบที่เรียกว่า ‘ทัวร์ลง’ ขุดคุ้ยระรานกันจนไม่มีที่ยืนในสังคม บางครั้งเพื่อความสะใจไม่มีประโยชน์อื่นด้วยซ้ำ
ดังอุมาวสีรำพึงกับตัวเองเสมอว่า คงยากเหลือเกินที่มนุษย์จะอยู่นิ่งๆ สงบเสงี่ยม ไม่จุ้นจ้านวุ่นวาย ส่อเสียดชีวิตคนอื่น
นี่หากหล่อนออกจากหิมพาลัยนครช้ากว่าที่เป็นไป รับรองต้องหมุนแหวนวิเศษ (ตัวช่วย) จนมือเป็นระวิง ถ้ารู้เห็น ‘โลกทิพย์’ ของคนยุคนี้เข้าคงสนุกไม่เบา ดีไม่ดีจะรีบหายแวบกลับหิมพาลัยภายในสามวันเจ็ดวันเสียก็ไม่รู้
ถึงอย่างไร สัจธรรมความจริงที่เกิดขึ้นย่อมไม่แปรเป็นอื่น ‘หากให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นย่อมจะถึงตัว’ อย่างแน่นอน คิดง่ายๆ ทำง่ายๆ แต่ไฉนคนเราไม่อาจทำ ยังคงเบียดเบียนผู้อื่นอยู่ร่ำไป
คิดและพูดด้วยมโนสุจริต วจีสุจริต เป็นสิ่งเหมาะควร เป็นหัวใจที่นวนิยายเล่มนี้สื่อสารอยู่ ที่สำคัญยังชี้ให้เห็นว่าความแตกต่างย่อมมีอยู่ในโลกเสมอ แต่จะอยู่อย่างไรให้สงบสุขท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์นี้
อ่าน ‘หิมพาลัย’ เล่มต้น จนถึง ‘อุมาวสี’ เล่มต่อ ก็จะทำให้เรื่องราวสมบูรณ์ สนุกสนาน ครบครันที่สุด